GROW model กับการทำฝันให้เป็นจริง
Q : "ติดตามมาหลายปี อยากได้ทุนอย่างพี่บ้าง แต่ยังไม่ได้ภาษาเลยอะ ท้อแท้"
=========
A : ถ้ายัง "อยาก" เพียงอย่างเดียว แต่ยังไม่ลงมือทำอะไรเลย ก้อทุกข์แน่นอนค่ะ เหมือนเราตั้งต้นเป้าหมายอะไรสักอย่าง แล้วทุกๆวัน เราก็ได้แต่นั่งมองเป้าหมายนั้นไปวันๆ ยังไงก็ไม่บรรลุยังไม่มีความสุข เพราะเป้าหมายนั้นไม่ได้รับการตอบสนองค่ะ
ถามกลับไปว่า ตอนไหนที่พี่ประทับใจมากเกี่ยวกับการเรียนต่อเยอรมนี บอกเลยค่ะ ว่าเป็นช่วงที่ลงมือทำเพื่อให้ได้ทุนค่ะ ไม่ว่า ตอนเย็นๆหลังเลิกงาน ต้องไปร้านอินเตอร์เนต เพื่อเปิดเนต เพราะหอพักในโรงงานไม่มีเนตให้ (โบราณเน๊อะ) ทุกเย็นวันศุกร์ต้องติดรถตู้ของโรงงานมากรุงเทพ เพื่อเรียนภาษาเยอรมันที่เกอเธ่ในวันอาทิตย์แล้วกลับบ้านที่หมอชิต/เอกมัย
พี่ยังจำได้แม้กระทั่งว่า ครั้งหนึ่ง มานั่งฟังเปียโนที่จตุจัก แล้วมีฝรั่งคนหนึ่งมานั่งฟัง แล้วคุยกัน เขาเล่าว่าเขาแบคแพคมาเที่ยวเอเชีย แล้วพี่บอกว่า นั่นคือความฝันพี่เลย
ดังนั้น พี่แนะนำว่า อย่ามัวแต่อยาก ให้ลงมือทำค่ะ
แนะนำ GROW model ค่ะ
1. G = Goal เป้าหมาย
- ตั้งเป้าหมายค่ะว่า โดยเปลี่ยนจากอยากได้ทุน "...." เป็น อยากได้เรียน "............" เราอยากไปเรียนอะไร เช่น เรียนป.โทด้านวิศวะอุตสาหการ,เพราะพี่ว่า เรียนเรื่องอะไร สำคัญมาเป็นอันดับ 1 ก่อนที่จะได้ทุนนะคะ ทุนมีเยอะแยะค่ะ ไม่ใช่แค่ในเยอรมนี เมืองไทย ญี่ปุ่น อเมริกา แต่หาให้เจอก่อนว่า อยากเรียนอะไรค่ะ
2. R = Reality ความเป็นจริงตอนนี้, ข้อเท็จจริงตอนนี้
- ตอนนี้สถานะเราเป็นอย่างไร ? สภาพปัจจุบันเราเป็นอย่างไร? ถ้าไปดูคุณสมบัติที่กำหนดสำหรับเรียนต่อคณะที่เราต้องการ กับความเป็นจริงของเราขณะนี้ เช่น เขากำหนดว่า
- ผู้ที่สมัครเรียน หรือสมัครทุน ต้องทำงานอย่างน้อย 2 ปี ---> ตอนนี้เราทำงาน เพียง 1 ปี
- ภาษาเยอรมันต้องได้ระดับ A2 ---> ถ้าเทียบระดับ A2 เป็น 10 ตอนนี้เราอยู่ที่ 0-1
- ความรู้ด้านวิชาการ ----> ตายละ ลืมไปเกือบหมดแล้ว (เรียนไม่ง่ายนะคะที่เยอรมนี)
เป็นต้น
3. O =Option ทางเลือก
เรามีทางเลือกอะไรบ้างที่จะทำให้เป้าหมายเราบรรลุ เช่น
* เขากำหนดว่า "ผู้ที่สมัครเรียน หรือสมัครทุน ต้องทำงานอย่างน้อย 2 ปี" ---> ทางเลือกของเรา ตอนนี้เราทำงาน เพียง 1 ปี เหลือเวลาอีก 1 ปี ควรจะอยู่บริษัทนี้ต่อให้ครบ 2 ปี หรือ 2 บริษัทๆละ 1 ปี (ถ้ามากกว่านี้ คิดว่า ไม่น่าจะได้ความรู้เพียงพอในเชิงลึก) และบริษัทนี้ควรจะอยู่ในสายของคณะที่เราจะสมัครด้วย ก็ต้องวางแผนตั้งแต่เรียนจบเลย หรือใครที่กำลังทำงาน ต้องวางแผน จะลาออกไปชิลล์ ลันลา ก็พักไว้ก่อน
* เขากำหนดว่า "ผู้ที่สมัครเรียน หรือสมัครทุนภาษาเยอรมันต้องได้ระดับ A2" ---> ถ้าเทียบระดับ A2 เป็น 10 ตอนนี้เราอยู่ที่ 0-1 แล้วทางเลือกเราจะทำอะไรได้บ้าง 1) ไปลงเรียนภาษาเยอรมันที่เกอเธ่ 2) เรียนทางยูทูป (ต้องมีความตั้งใจและวินัยอย่างสูง) 3) หาครูภาษาเยอรมัน ติวตัวต่อตัว 4) ไปเรียนภาษาเยอรมันตามมหาวิทยาลัย อีกเยอะค่ะ เราถนัดทางไหนก็เอาทางนั้น
ขั้นตอนนี้เป็นการหาวิธีการต่างๆที่เราต้องปฏิบัติเพื่อให้ถึงจุดหมาย ตอนแรกแนะนำว่าให้เอาคุณสมบัติของคณะที่จะสอบหรือทุนที่จะสมัครเป็นตัวตั้ง แล้ว list ทางเลือกออกมาให้ได้มากที่สุด และเลือกข้อที่เราสามารถทำได้ดีที่สุดมาลงมือทำก่อน ส่วนข้ออื่นๆก็เอาไว้เป็นตัวสำรองค่ะ
4. W =Will หรือ Way forward จะเริ่มทำอะไร
เมื่อเราได้ทางเลือก ในข้อ 3 แล้ว เราจะเริ่มลงมือทำอะไรก่อนหลัง แล้วลงมือทำเลยค่ะ เช่น เรื่องภาษาเยอรมัน ตั้งใจว่า มีเวลา 1 ปี ดังนั้น
- 2 เดือนแรกลองเรียนกับยูทูปก่อน โดยช่วงแรกจะฝึกอ่าน ท่องศัพท์ พูดกับตัวเอง เขียนประโยคง่ายๆที่ใช้ในชีวิต ฯลฯ
- 3 เดือนต่อมาจะไปลงเรียนที่เกอเธ่
- หลังจากนั้นจะหาครูมาติวตัวต่อตัว
เริ่มที่เล็กๆก่อนก็ได้ อยากได้ภาษาเยอรมัน ท่องศัพท์ 10 คำต่อวัน หัดพูดประโยคง่ายๆกับตัวเองวันละ 10 ประโยค ฟังยูทูป วันละ 10 นาทีเป็นต้น ที่สำคัญในขั้นตอนนี้คือ" ต้องลงมือทำ" ค่ะ
ถ้าไม่ลงมือทำ ก็จะวนไปที่คำถามเหมือนเดิม "ติดตามมาหลายปี อยากได้ทุนอย่างพี่บ้าง แต่ยังไม่ได้ภาษาเลยอะ ท้อแท้" อันนี้ก็ไม่รู้จะช่วยยังไงค่ะ
นึกไว้นะคะ ดาบที่สวยงาม มันต้องโดนตี โดนความร้อน มามากมาย เพชรที่ราคาแพงลิบก็ต้องผ่านความร้อนสุดๆมาหลายปีเช่นกันค่ะ ถ้าอยากเป็นเพชร อยากเป็นดาบที่สวยงามมีค่า ไม่อาจเลี่ยงกระบวนการเหล่านี้ได้ค่ะ เลือกเอาค่ะ
......................
พี่เก๋ ศศิมา สุขสว่าง
http://www.succeed-germany.com/
.
#เรียนฟรีที่เยอรมนี
#ทุนเรียนฟรีที่เยอรมนี
#ทุนเรียนต่อต่างประเทศ
#ฝันให้ไกลไปให้ถึง
#ถึงหรือไม่ถึงขึ้นอยู่กับ1สมอง2มือของตัวเอง