ทุน DAAD Helmut-Schmidt-Programme

แชร์ประสบการณ์การขอทุน DAAD Helmut-Schmidt-Programme (Master’s Scholarships for Public Policy and Good Governance - PPGG)

ดิฉันมีความตั้งใจตั้งแต่แรกว่าถ้าได้รับทุนนี้แล้วถ้ามีโอกาสจะนำประสบการณ์การเตรียมตัวในการขอทุนมาแบ่งปันให้คนอื่นที่สนใจเพื่อเป็นประโยชน์ให้แก่รุ่นน้องต่อๆไป

จริงๆแล้ว DAAD เป็นทุนจากประเทศเยอรมันที่เป็นที่รู้จักและให้ทุนแก่นักเรียนนักศึกษาและนักวิจัยจากทั่วโลกในหลายสาขาวิชาทุน PPGG ที่ดิฉันได้รับเป็นทุนที่เกิดขึ้นเมื่อปีค.ศ  2009 ค่ะเป็นทุนให้แก่ผู้ที่สนใจศึกษาต่อในระดับปริญญาโทสาขาด้านรัฐศาสตร์และสังคมศาสตร์

 

การเตรียมตัวขอทุน

รายละเอียดเบื้องต้นของทุนต่างๆของ DAAD สามารถหาได้จากเว็บไซต์โดยตรงเลยค่ะ   ส่วนตัวดิฉันเป็นคนที่ชอบหาข้อมูลเรื่องทุนต่างๆอยู่แล้วแต่ที่สนใจเป็นพิเศษคือการเตรียมตัวและประสปการณ์จริงจากรุ่นพี่ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากๆในการตัดสินใจและเตรียมตัวในการขอทุน  เช่น เวปไซต์  http://www.succeed-germany.com/  ค่ะ

 


ข้อดีของทุน DAAD คือเป็นทุนที่ให้เปล่าโดยไม่ต้องกลับมาใช้ทุนค่ะนอกจากนี้ยังมีหลากหลายสาขาวิชาให้เลือกใครเรียนสายวิชาอะไรมาเรียกได้ว่าสามารถขอทุนนี้ได้หมดเลยค่ะทุน DAAD แต่ละสาขาจะมีวิธีการสมัครและการคัดเลือกต่างกัน

 

ทุน  PPGG จะให้ผู้สมัครเตรียมเอกสารการสมัครให้พร้อมและส่งไปที่มหาวิยาลัยที่ตัวเองเลือกไว้โดยตรงเลยค่ะซึ่งถือว่าสะดวกมากเพราะเราสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ที่ให้ไว้จากมหาลัยแลัวอัพโหลดเอกสารหรือส่งไปที่ทางอีเมลล์ที่ให้ไว้ได้เลยโดยไม่ต้องเตรียมเอกสารอีกชุดให้ DAAD จากนั้นมหาวิทยาลัยก็จะประสานงานกับทาง DAAD เองค่ะ

 

ทุนนี้จะเริ่มประกาศตั้งแต่ช่วงต้นปีค่ะและจะปิดรับสมัครปลายเดือนกรกฎาคมของทุกปีคนที่สนใจสมัครทุนนี้จึงมีเวลาหลายเดือนในการเตรียมตัวให้พร้อมเอกสารที่ทุกคนต้องเตรียมนอกจากใบสมัครที่โหลดได้ในเว็บไซต์ของ DAAD และเอกสารส่วนตัวด้านการเรียนที่ทุกคนมีแล้วคือผลสอบภาษาอังกฤษ (แล้วแต่มหาลัยค่ะว่าต้องการขั้นต่ำเท่าไหร่ส่วนมากจะอยู่ที่ระดับ6/6.5 สำหรับ IELTS)

 

นอกจากนี้ก็จะเป็นจดหมายแนะนำจากอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยหรือจากที่ทำงาน (ในกรณีที่ทำงานแล้ว) CV และ Statement of Purposes (หรือ Motivation letter ค่ะ) เอกสารชิ้นนี้ถือว่าสำคัญมากเลยค่ะเราต้องบอกเหตุผลและความต้องการเรียนในสาขาวิชานั้นๆให้ละเอียดแต่ต้องไม่เย่นเย้ออย่างมากสุดสองหน้าก็พอค่ะถ้ามีประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวข้องก็ใส่ไปได้เลยค่ะ

 

ทุนนี้ถึงแม้ว่าจะไม่ระบุว่าผู้สมัครต้องมีประสปการณ์การทำงาน   แต่ส่วนตัวดิฉันแล้วคิดว่าข้อนี้ก็มีความสำคัญมากเลยค่ะ   เพราะดิฉันเองไม่ได้เรียนจบสายวิชารัฐศาสตร์หรือสังคมศาสตร์มาโดยตรง   แต่มีประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวข้องเพราะทำงานอยู่ที่ NGO แห่งหนึ่งอยู่หลายปี   และมีโอกาสเรียนรู้งานที่เกี่ยวกับด้านนโยบายเพื่อการพัฒนาอยู่บ้าง   จึงคิดว่าถ้าใส่ประสปการณ์ส่วนนี้ไปจะเป็นประโยชน์ทำให้จดหมายของเราดูมีน้ำหนักและน่าสนใจขึ้นค่ะ   ถ้าใครสนใจอยากจะขอดูเป็นตัวอย่างหรือจะขอคำแนะนำก็ยินดีค่ะ

 

ในใบสมัครจะให้เราเลือก  3  มหาวิทยาลัยโดยให้เรียงตามลำดับความต้องการจากมากไปน้อยค่ะ   มหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมโปรแกรมนี้มีทั้งหมด 8 แห่งค่ะ  เป็นมหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพทุกแห่งค่ะ   แต่อาจจะมีความแตกต่างกันตรงที่หลักสูตรบางมหาวิทยาลัยมีหลักสูตรเพียงหนึ่งปี   บางมหาลัยมีหลักสูตรที่สอนทั้งภาษาเยอรมันและภาษาอังกฤษเป็นต้น

 

ส่วนตัวดิฉันเลือกมหาวิทยาลัยที่สอนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดค่ะมหาวิทยาลัยที่ดิฉันได้ทุนคือ University Duisburg Essen (Master of Governance and Development ) เป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษ 1 ปีค่ะ   ส่วนใครที่สนใจหลักสูตรที่มีสอนเป็นภาษาเยอรมันก็ไม่ต้องกลัวไปนะคะ   เพราะก่อนเริ่มเรียนเทอมแรก DAAD จะจัดคอร์สภาษาเยอรมันให้กับผู้ได้ทุนทุกคนค่ะ   ส่วนใครที่ต้องเข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่มีสอนเป็นภาษาเยอรมันและต้องมีผลสอบภาษาเยอรมันหรือ Testdaf

 

เมื่อจบคอร์สภาษาแล้วทางสถาบันก็จะจัดสอบให้ค่ะส่วนใครที่ไม่มีความรู้ภาษาเยอรมันมาก่อนเลย  แล้วกลัวว่าพอถึงเวลาจะสอบไม่ถึงเกณฑ์ (บางมหาวิทยาลัยต้องการ C1/C2) ก็ไม่ต้องกังวัลค่ะ   เพราะทางมหาลัยจะให้เวลาหนึ่งปีในการส่งผลสอบภาษาตามเกณฑ์ที่กำหนด   ส่วนค่าใช้จ่ายในการสอบทาง DAAD จะเป็นผู้ออกให้ทั้งหมด    แม้แต่นักเรียนทุนโปรแกรมภาษาอังกฤษทาง DAAD ก็ใจดีให้สิทธิ์ในการสอบวัดระดับทางภาษากับเราค่ะ

 

เมื่อส่งเอกสารทุกอย่างไปให้ทางมหาวิทยาลัยแล้ว  ก็รอแจ้งผลช่วงปลายปีประมาณเดือนธันวาคมค่ะ   ผลทุนจะส่งมาจากทางมหาวิทยาลัยโดยตรงค่ะ  จากนั้นทาง DAAD จะส่งรายละเอียดอื่นๆในการเตรียมตัวเพื่อไปเรียนต่อไปค่ะ

 

จากประสปการณ์ที่ได้พูดคุยกับเจ้าหน้า DAAD อยากให้ทุกคนใส่ใจในรายละเอียดเกี่ยวกับเอกสารในการสมัครให้ดีค่ะ   เพราะเท่าที่ทราบมามีผู้ขอทุนหลายคนต้องถูกคัดออกไป   เพราะเอกสารไม่ครบถ้วนสมบูรณ์แต่ละปีมีผู้สมัครเข้ามาเป็นจำนวนมาก   อย่างปีที่ดิฉันได้ทุนมีผู้สมัครมากกว่าพันคนและมีผู้ที่รับเลือกได้ทุนนี้ประมาณ 90 กว่าคนค่ะ

 

ดังนั้นถ้าพบว่าเอกสารไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ทางมหาวิทยาลัยและทาง DAAD จะคัดออกทันทีเลยค่ะ   รุ่นดิฉันมีคนไทยที่ได้รับทุนนี้ทั้งหมด 5 คนค่ะ   นักเรียนทุนจะได้ไปเรียนภาษาที่เมืองต่างๆที่ DAAD จัดไว้ให้   ปีนี้  Cologne  เป็นเมืองที่ถูกจัดไว้ให้สำหรับนักเรียนทุนของมหาวิทยาลัยในเมือง Osnabrück และ Duisburg ค่ะ   ส่วนนักเรียนทุนจากมหาวิทยาลัยอื่นได้ไปเรียนที่ Munich ค่ะ

 

เมื่อได้รับเลือกแล้วทาง DAAD จะส่งข้อมูลในการเตรียมตัวก่อนเดินทางมาให้ค่ะเจ้าหน้าที่  DAAD  ที่กรุงเทพก็ให้ความช่วยเหลือได้มากเลยค่ะ   ใครสนใจทุน DAAD   หรือกำลังเตรียมตัวสมัครขอทุนและอยากรู้ในเรื่องของการเตรียมเอกสารต่างๆ  หรืออยากสอบถามข้อมูลอื่นๆด้านการเรียนต่อประเทศเยอรมัน  สามารถติดต่อไปได้เลยค่ะ

 

จริงๆแล้ว  ดิฉันคิดว่าการขอทุนไม่อยากอย่างที่คิดนะคะ   ขอเพียงแค่มีความตั้งใจจริงและที่สำคัญต้องมีความเข้าใจในความต้องการของตนเอง รู้ว่าตัวเองชอบอะไรและถนัดด้านไหนเนื่องจากมีผู้ขอทุนมากมายในแต่ละปี  การดึงเอาจุดเด่นและความต้องการของเราออกมาให้กรรมการเห็น  โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิสัยทัศน์ของเราในการเรียนและการนำความรู้ไปใช้จริง   เมื่อเรียนจบถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากค่ะอยากให้ผู้ให้ทุนคิดว่าลงทุนกับเราไปไม่เสียเปล่า     ถึงแม้เราจะไม่ต้องมาใช้ทุนก็ยังต้องมีความมุ่งมั่นนำประสปการณ์และความรู้กลับไปใช้พัฒนาตนเองและประเทศชาติค่ะ

 

ตอนนี้ดิฉันเพิ่งมาเรียนภาษาได้แค่หนึ่งเดือน  ช่วงนี้เป็นช่วงปรับตัวค่ะ  อาจจะยังให้ข้อมูลได้ไม่มากในด้านประสปการณ์ในการเรียนที่มหาวิทยาลัยยังไง  ถ้ามีโอกาสจะเขียนมาให้อ่านกันอีกนะคะ

 

ขอให้ทุกคนโชคดีค่ะ

กุศลิน วงษ์น้ำคบ
นักเรียนทุน DAAD Helmut-Schmidt-Programme (Master’s Scholarships for Public Policy and Good Governance - PPGG)2015
ปริญญาตรี:  คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
(Email:  Kusalin_w@hotmail.com)

 

*******************

ขอบคุณน้องกุศลิน วงษ์น้ำคบมากนะคะ ที่มาแชร์ประการณ์กับเวปไซต์  http://www.succeed-germany.com/ 


พี่เก๋ ศศิมา สุขสว่าง

http://www.succeed-germany.com/


Visitors: 82,192